บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจโดยยึดถือประโยชน์สูงสุดของกลุ่มบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายเป็นสำคัญ โดยกำหนดให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกคนมีหน้าที่หลีกเลี่ยงการเข้าไปเกี่ยวข้องหรือกระทำการใด ๆ ที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ อันอาจส่งผลให้บริษัทสูญเสียประโยชน์หรือประสิทธิภาพในการดำเนินงานลดลง
อย่างไรก็ตาม หากมีธุรกรรมใดที่มีลักษณะอาจเกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์และมีความจำเป็นต้องดำเนินการ กรรมการ ผู้บริหาร หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องกำกับดูแลให้ดำเนินการด้วยความโปร่งใส ชัดเจน และเป็นธรรม เพื่อประโยชน์สูงสุดของกลุ่มบริษัท โดยธุรกรรมใดที่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศของสำนักงาน ก.ล.ต. จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และกระบวนการที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
ในปี พ.ศ. 2567 ฝ่ายกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ได้ดำเนินการตรวจสอบให้ผู้บริหารที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่ (ตามนิยามของ ก.ล.ต.) รายงานผลประโยชน์ของตนเองและบุคคลที่เกี่ยวข้องทันทีเมื่อเข้ารับตำแหน่ง และจัดส่งรายงานผลประโยชน์ดังกล่าวต่อประธานกรรมการบริษัทและประธานคณะกรรมการตรวจสอบภายใน 7 วันทำการนับจากวันที่ได้รับรายงาน พร้อมติดตามและทบทวนข้อมูลการมีส่วนได้ส่วนเสียของกรรมการและผู้บริหารเป็นประจำทุกปี
นอกจากนี้ ฝ่ายทรัพยากรบุคคลร่วมกับฝ่ายกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ได้แจ้งให้ผู้บริหารและพนักงานใหม่ทุกคนศึกษานโยบายและแนวปฏิบัติด้านธรรมาภิบาลของกลุ่มบริษัท ซึ่งถูกรวมอยู่ในข้อบังคับพนักงานและเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์หรือระบบอินทราเน็ต เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้โดยสะดวก
บริษัทฯ ยังได้จัดทำสื่อการเรียนรู้และแบบทดสอบในรูปแบบ e-Learning เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการมีส่วนได้ส่วนเสียและความขัดแย้งทางผลประโยชน์ สำหรับกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน เพื่อให้ทบทวนความเข้าใจเกี่ยวกับหลักปฏิบัติที่จำเป็นต้องยึดถือ โดยเนื้อหาการอบรมประกอบด้วยคำอธิบาย ตัวอย่างสถานการณ์ และการกระทำที่อาจเข้าข่ายความขัดแย้งทางผลประโยชน์ โดยในปี 2567 บริษัทมีผู้เข้าร่วมและผ่านการเรียนรู้ครบ 100% ครอบคลุมกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคนผ่านระบบอินทราเน็ต
ในปี พ.ศ. 2567 บริษัทฯ ไม่พบการกระทำผิด หรือได้รับรายงานหรือข้อร้องเรียนใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาประโยชน์ส่วนตนหรือความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่ฝ่าฝืนนโยบายของบริษัท