ความเป็นมา วัตถุประสงค์ และเป้าหมาย

องค์กรที่ก้าวหน้าต่างๆกำลังขับเคลื่อนวัฒนธรรมการเรียนรู้ไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องในหมู่เพื่อนร่วมงาน เช่นเดียวกับองค์กรส่วนใหญ่ บริษัทเมก้าได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและความสามารถในการรับมือกับความไม่แน่นอนได้อย่างเต็มที่เพื่อนำไปสู่ความสำเร็จในโลกหลังการแพร่ระบาด

จากสถิติของดีลอยท์ องค์กรที่มีวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งร้อยละ 92 มีแนวโน้มที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการใหม่ๆ ร้อยละ 52 มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น ร้อยละ 56 มีแนวโน้มที่จะเป็นเจ้าแรกที่นำผลิตภัณฑ์และบริการของตนออกสู่ท้องตลาด และร้อยละ 17 สามารถทำกำไรได้มากกว่าบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมเดียวกัน นอกจากนี้ อัตราการมีส่วนร่วมและการรักษาลูกค้ายังสูงขึ้น ร้อยละ 30–50 คนรุ่นมิลเลนเนียลยังให้คะแนนการพัฒนาเป็นสวัสดิการอันดับหนึ่งของการทำงาน ทำให้เห็นได้ชัดว่า การจัดลำดับความสำคัญการเรียนรู้และการพัฒนาเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างผู้ที่มีความสามารถและความสำเร็จขององค์กร ไม่น่าแปลกใจเลยที่การพัฒนาวิชาชีพจะเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่มีส่วนร่วมซึ่งมีความยั่งยืน

ที่บริษัทเมก้า เรามีความหลงใหลเกี่ยวกับ "การสร้างเจ้าของและการพัฒนาชีวิต" บุคลากร คือ หัวใจสำคัญของการริเริ่มเสริมสร้างขีดความสามารถของเรา เพื่อหล่อเลี้ยงผู้ที่มีความสามารถ เป้าหมายของเมก้าอะคาเดมี่ คือ การเป็นตัวเร่งและอำนวยความสะดวกในการแทรกแซงการพัฒนาจุดแข็ง โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของบุคคลและทีมเพื่อพัฒนาทักษะและความรู้เพื่อกระตุ้นให้เกิดประสิทธิภาพ โปรแกรมที่หลากหลายของเมก้าล้วนสนับสนุนการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ทักษะทางอารมณ์ พฤติกรรม ความเชี่ยวชาญด้านเทคนิค และความสามารถในการเป็นผู้นำในทีม

องค์กรที่มีวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่แข็งแกร่ง
92%
มีแนวโน้มที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการใหม่ๆ
52%
มีประสิทธิผลเพิ่มขึ้น
56%
มีแนวโน้มที่จะเป็นเจ้าแรกที่นำผลิตภัณฑ์และบริการของตนออกสู่ท้องตลาด
17%
สามารถทำกำไรได้มากกว่าบริษัทอื่นๆในอุตสาหกรรมเดียวกัน

เป้าหมายของเมก้าอะคาเดมี่ คือ เพื่อพัฒนาการคิด ส่งเสริมการเรียนรู้ และการพัฒนาเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของธุรกิจ

กลยุทธ์และการตอบสนอง

ทิศทางเชิงกลยุทธ์ของเมก้าอะคาเดมี่มีดังนี้

เสริมสร้างองค์ประกอบทางวัฒนธรรมของวิถีเมก้าด้วยการสร้างผู้ที่มีความเชื่อและทูตขององค์กร

ให้ความรู้เกี่ยวกับผู้คน ธุรกิจ และทักษะส่วนบุคคลแก่เพื่อนร่วมงาน

ระบุและพัฒนาทักษะและความรู้ที่จำเป็นสำหรับเพื่อนร่วมงานทั่วโลก

จำเป็นต้องมีการพัฒนาทักษะเดิม และการเพิ่มเติมทักษะใหม่

เมก้าอะคาเดมี่ถือกำเนิดขึ้นจากความมุ่งมั่นของเมก้าในการช่วยให้คนเก่งในด้านที่เป็นจุดแข็งของพวกเขา เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้และเติมเต็มช่องว่างในการพัฒนา จึงได้มีการวิเคราะห์ความต้องการการฝึกอบรมอย่างเต็มรูปแบบในทุกตลาดของเมก้าในปี 2014 โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรภายนอกซึ่งทำงานใกล้ชิดกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลักๆของเมก้า เพื่ออธิบายความต้องการการฝึกอบรม และระบุเส้นทางเพื่อตอบสนองความต้องการในการพัฒนา จากการวิเคราะห์ช่องว่างนี้ ชุดโมดูลที่รวมทุกอย่างได้ถูกสร้างขึ้นตามหลักการเรียนรู้ของผู้ใหญ่และการเรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติ ชูดโมดูลเหล่านี้ประกอบด้วยตัวอย่างและเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจจากทั่วโลกซึ่งสอดคล้องกับวิถีของเมก้าและปรัชญาของเมก้า ชุดโมดูลประกอบด้วยส่วนประกอบต่างๆ เช่น เนื้อหาการฝึกอบรม คู่มือวิทยากร ลานฝึกอบรม คู่มือผู้เข้าร่วม ฯลฯ เพื่อช่วยในกระบวนการเรียนรู้และการพัฒนา

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เมก้าอะคาเดมี่เป็นเครื่องมือในการเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้มีความสามารถเพื่อขับเคลื่อนโมเมนตัมแห่งการเรียนรู้ไปข้างหน้า รูปแบบการกำกับดูแลที่แข็งแกร่งและโครงสร้างโปรแกรมการฝึกอบรมที่ครอบคลุมช่วยขับเคลื่อนวัฒนธรรมการเรียนรู้และช่วยให้สามารถพัฒนาทักษะและความรู้ได้ แนวทางการพัฒนาตามจุดแข็งไปจนถึงการแทรกแซงเชิงกลยุทธ์ เช่น โปรแกรมฝึกความพร้อมของเทรนเนอร์ (Trainer Readiness Internship Program (TRIP)), โปรแกรมผู้จัดการระดับปรมาจารย์ของเมก้า (Mega Master Managers' (MMM)), โปรแกรมเทรนเนอร์ของเมก้าอะคาเดมี่ (Mega Academy Trainers' (MAT)), E-Learning ควบคู่กับโปรแกรมการฝึกอบรมตามปกติตามแผนงานช่วยให้ผู้จัดการและทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมและประสิทธิภาพการทำงาน

เริ่มแรก ได้มีการพัฒนาโมดูลจำนวน 12 โมดูลจากการวิเคราะห์ช่องว่างในตลาดต่างๆของบริษัทเมก้า โมดูลเหล่านี้รวมอยู่ในเสาหลักความเป็นเลิศด้านบุคลากร ความเป็นเลิศทางธุรกิจ และความเป็นเลิศส่วนบุคคล จากนั้นได้มีการพัฒนาโมดูลต่างๆเป็นจำนวนมากจากการระบุความต้องการการฝึกอบรม ได้แก่ การชักนำ ทักษะการขาย กรอบการทำงาน ERRC จากกลยุทธ์ Blue Ocean (BOS) การฝึกสอน O3 แผนการเปลี่ยนแปลงด้วยการออกแบบ (CBD) ทฤษฎีการขายที่มีข้อจำกัด (STOC) กุญแจสำคัญ 5 ประการในการเป็นผู้จัดการที่แข็งแกร่งจากการทำลายกฎทุกอย่างก่อน MBTI และการประสานงานเชิงสัมพันธ์ การจัดการการทำงานระยะไกลโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด รวมถึงทักษะและเครื่องมือการบริหารจัดการการมีส่วนร่วมแบบดิจิทัล/การพัฒนาทักษะดิจิทัล ซีรี่ส์ผู้จัดการระดับปรมาจารย์ของเมก้าจ จำนวน 6 โมดูล ซีรีส์การบริหารจัดการผู้ที่มีความสามารถของเมก้า (MTM) จำนวน 10 โมดูล มีการพัฒนาอุปนิสัยที่นำสู่ความแข็งแกร่ง

การเดินทางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

จำนวนโปรแกรมการฝึกอบรม
จำนวนชั่วโมง จำนวนผู้เข้าร่วม
2559 38,288 4,784
2560 52,138 6,275
2561 67,380 6,891
2562 68,985 10,496
2563 70,550 12,380
2564 79,892 33,563

โปรแกรมเทรนเนอร์ของเมก้าอะคาเดมี่กว่า 12 รุ่นซึ่งสร้างเทรนเนอร์ที่ได้รับการรับรองมากกว่า 150 คนใน 30 กว่าประเทศ

เทรนเนอร์ที่เป็นสตาร์มากกว่า 60 คนที่ส่งมอบโมดูลมากกว่า 30 โมดูล และทุ่มเทให้กับการเรียนรู้และการพัฒนาองค์กร

TRIP - โปรแกรมการฝึกความพร้อมของเทรนเนอร์ยังคงดึงดูดเทรนเนอร์/ครูที่ทุ่มเทให้เข้าใช้โมดูลเฉพาะ เรียนรู้และช่วยให้เกิดการแทรกแซงการเรียนรู้

โครงการผู้จัดการระดับปรมาจารย์ของเมก้า (MMM) โปรแกรมเรือธงที่มี และยังคงให้เครื่องมือแก่ผู้จัดการกว่า 1000 คนเพื่อใช้เป็นแนวทางที่ยึดตามจุดแข็งเพื่อพัฒนาการมีความส่วนร่วม และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน

ตามปรัชญาของเราในเรื่อง “การสร้างเจ้าของ การพัฒนาชีวิต” เมก้าอะคาเดมี่ได้แสดงความยินดีและยอมรับเทรนเนอร์อาวุโสของเมก้าอะคาเดมี่ที่ผ่านการรับรองในประเทศไทย เมียนมา เวียดนาม กัมพูชา แอฟริกาตะวันตก ยูเครน และเปรู สำหรับความทุ่มเทอย่างต่อเนื่องของพวกเขา

โปรแกรมการบริหารจัดการผู้ที่มีความสามารถของเมก้า (MTM) ซึ่งเป็นความคิดริเริ่มตามวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ของ Human Capital Development (HCD) ช่วยสนับสนุนเป้าหมายทางธุรกิจเชิงกลยุทธ์ปี 2025 (2021 - 2025) และอื่นๆ MTM เปิดตัวในไตรมาสที่ 1 ปี 2021 เพื่อสร้างความตระหนักและสร้างทักษะและความรู้ในหมู่ผู้ชนะทางด้าน HR/HCD/ผู้คนจากตลาดต่างๆของเมก้า ความพยายามนี้จะช่วยผู้ชนะทั้ง 29 คนของเราสามารถขับเคลื่อนกลยุทธ์เสาหลักในการสร้างเมก้าที่ยั่งยืนในตลาดที่เกี่ยวข้องได้

การสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ที่ขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า

การเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลอย่างรวดเร็วในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเป็นการบังคับให้องค์กรต่างๆ ต้องหาแนวทางใหม่ๆ ในการมีส่วนร่วมกับพนักงาน ทักษะที่ต้องการเมื่อห้าปีที่แล้วอาจใช้ไม่ได้อีกต่อไปในปัจจุบันและในอนาคต บริษัทต่างๆ จำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์การเพิ่มทักษะและการพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พนักงานมีส่วนร่วม 59% ของหัวหน้าฝ่ายทรัพยากรบุคคลให้ความสำคัญกับการสร้างทักษะและความสามารถที่สำคัญเพื่อให้ตอบโจทย์กับความต้องการ

เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ให้ความสำคัญกับการพัฒนามาโดยตลอด และการมุ่งเน้นนี้เติบโตขึ้นทุกปี มากกว่าที่เคย ความพยายามของเมก้าอะคาเดมี่ คือ การประเมินทักษะและช่องว่างความรู้อย่างต่อเนื่อง และดูการพัฒนาแบบองค์รวมด้วยวิธีเชิงกลยุทธ์เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ กลยุทธ์ด้านความสามารถของเราไม่ได้มุ่งแต่การสร้างความสามารถในระยะสั้นเท่านั้น แต่ยังพิจารณาถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อสร้างเมก้าที่มีการพัฒนา ปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และสามารถปรับเปลี่ยนได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก่อนที่จะถูกบังคับให้ต้องเปลี่ยนแปลง

แนวคิดและการคิดแบบเติบโตของบริษัทเมก้า การเปลี่ยนแปลง และวัฒนธรรมการเติบโตช่วยหล่อเลี้ยงแนวทางที่ยึดตามจุดแข็งของพนักงานและช่วยในการนำทักษะและความรู้ใหม่ๆมาใช้ในการทำงานอย่างเหมาะสม ความสามารถในการเรียนรู้ของเรา และการนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปปฏิบัติทำให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน